chipatha-banthoeng::บันเทิงเทศ,บันเทิงไทย,ประเด็ดฮอต,สกู๊ปบันเทิง,MOVIE TRAILERS,MUSIC,SEXY STAR: movie review

วิจารณ์หนัง : The hunger games mockingjay part 1

<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgpEg0VRmBxJPgpK8LezEnKa1qssckG_XtiABR-LuSNKJ7pqrIAVRKCxrvVVXJAB1R9HMGof7XVmtV5KLhnHPqyuO4lqyq_LODHo7aC3IyWVBTXzqxcbUu1AePp9UrwP2FKNxtGYbCp-MA/s1600-h/mockingjay_pt1_logo_small%25255B7%25255D.jpg"><img alt="mockingjay_pt1_logo_small" border="0" height="768" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhGUTkvg3Qh3ENQm7BLyYWjGfbY02K3i3QXM6EJhthkrWQbiAFJI_0hfyaw8B7vYPNFOFhawNgSODNyLh17sfDWjOeFFWFB5sIjphvPVy2KnTpXazyd5D5rIuwD2v6EM_LnPTBFP-Ftsi8/?imgmax=800" style="border-bottom: 0px; border-left: 0px; border-right: 0px; border-top: 0px; display: block; float: none; margin-left: auto; margin-right: auto;" title="mockingjay_pt1_logo_small" width="538" /></a> 
 
เดินทางมาสู่ภาคสุดท้ายแล้วสำหรับ The hunger games ภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายแฟนตาซีชื่อดังที่แจ้งเกิดนักแสดงหลายคนโดยเฉพาะ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะเป็นทำเนียมไปแล้วที่ภาคจบของหนังแนวนี้จะต้องถูกซอยย่อยออกมาเป็น 2 Part ส่วนหนึ่งเพื่อการเก็บรายละเอียด แต่อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อการตลาดและรายได้ 
 
The hunger games mockingjay part 1 ได้นักแสดงชุดเดิมกลับมาสานต่อบทตัวละครจากภาคที่แล้วครบทีม รวมถึง ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน ที่เสียชีวิตหลังการถ่ายทำหนังเสร็จลงไม่นาน ปัญหาน่าจะอยู่ที่ภาคต่อไปเพราะตัวละคร พลูตาร์ช เฮฟเวนสบี ค่อนข้างเด่นพอสมควร อาจต้องใช้เทคนิค CG เข้ามาช่วย 
 
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhD7UznZ-neE4LeKIwWk4fTmp4gYCI0IoGmxklE24l6DMoMqoEUUh2kP_aEf_hk3Xys1BBKTNUfCQacms_DBwQllvPWvUQGFXFSjLWGakOuz2pXCM2tAUhcspJTkFOtqmamkNAhxDR96Fs/s1600-h/download%25255B4%25255D.jpg"><img alt="download" border="0" height="447" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjN2Z1MbvFNCZjYbABTwYj5FFcbK3j3wCo2qRKFWmct4IKly87Y36eXfo1CqVzihacDCmiX4mFgjAXM6-ncfcelpvKJ8xEiWbVKFOJP5RygC0isMRrhmtgh2Z_fnqXrSwA9VLi7cHiroY8/?imgmax=800" style="border-bottom: 0px; border-left: 0px; border-right: 0px; border-top: 0px; display: block; float: none; margin-left: auto; margin-right: auto;" title="download" width="640" /></a> 
 
ในภาคนี้หนังเล่าเรื่องต่อจากการแข่งขัน Quarter Quell ในภาคที่แล้ว แคทนิส เอเวอร์ดีน (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) ได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มกบฏภายใต้การนำของ ประธานาธิบดีอัลมา คอยน์ (จูเลี่ยน มัวร์) ผู้ปกครองเขต13 โดยมี พลูตาร์ช เฮฟเวนสบี (ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน) เป็นที่ปรึกษา แคทนิส กับครอบครัวลี้ภัยอยู่ที่เขต13 แต่ไม่ยอมรับข้อเสนอในการเป็น ม็อกกิ้งเจย์ นำมวลชนปฏิวัติ กระทั่ง เกล (เลียม เฮมส์เวิร์ธ) พาเธอไปเห็นความโหดร้ายที่ ประธานาธิบดีสโนว์ (โดนัลด์ ซัทเธอร์แลนด์) ผู้นำแคปิตอลที่ปกครองประเทศพาเน็ม ทำกับเขตต่างๆ โดยเฉพาะเขต12 บ้านเกิดของเธอ 
 
แคทนิส ตกลงเป็น ม็อกกิ้งเจย์ โดยมีเงื่อนไขในการช่วยเหลือ พีต้า เมลลาร์ คนรักซึ่งถูกแคปิตอลจับตัวไว้ เธอปลุกระดมให้ประชาชนในเขตต่างๆทั้ง11เขตลุกขึ้นสู้กับอำนาจของประธานาธิบดีสโนว์ ฝ่ายแคปิตอลที่เริ่มเสียศูนย์ก็พยายามทำทุกวิถีทางในการจัดการกับกลุ่มกบฏให้สิ้นซาก สงครามครั้งสุดท้ายจึงกำลังจะเกิดขึ้น 
 
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhpIqcvdqcy8p5VAEVph2rM6wxknXIQaUZMOs66ygaNLVF0Nwq_IxPznYR2iVv2uReGWvtc8x6AzO2vT9CCTqvFpfEYUYWjpFswYTEbMwNzcGuyKD3cS-fOxkBXvTiOTKZU4owz109dp-A/s1600-h/a9cd95fc0543fc931779194f43caa920%25255B6%25255D.jpg"><img alt="a9cd95fc0543fc931779194f43caa920" border="0" height="375" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgIzpNBLffF52eFHrC27FArDTSJRGRIHOno4-RSNikUFWqoHiaAbQdRyHU90-W1MEk_jnmXZTYylf-FYQlVr8RgLDFwTT7-60MgCJkI1yGN_LKv0fGcpsjZ8U008vpvzaWAOFcO06xs0ww/?imgmax=800" style="border-bottom: 0px; border-left: 0px; border-right: 0px; border-top: 0px; display: block; float: none; margin-left: auto; margin-right: auto;" title="a9cd95fc0543fc931779194f43caa920" width="531" /></a> 
 
บทหนังจับประเด็นการเมืองแบบเข้มข้นกว่าสองภาคที่ผ่านมา วิพากย์ระบบการปกครองที่ไม่เป็นธรรม รวมทั้งสะท้อนปัญหาความเหลื่อมลํ้าทางสังคม สอดแทรกซีนสะทือนใจและปลุกใจเป็นระยะ ใครที่หวังจะเข้าไปดูฉากแอ็คชั่นบอกเลยว่าคงผิดหวัง เนื่องจากในภาคนี้เป็นสมรภูมิสงครามข่าวสาร กลุ่มกบฏทำการปฏิวัติผ่านทางหน้าจอด้วยวิธีอัดคลิปโฆษณาชวนเชื่อแข่งกับ ประธานาธิบดีสโนว์ หนังมีการแฝงนัยบางอย่างโดยสื่อสารแนวคิดผ่านทาง สัญลักษณ์ต่างๆกับเพลง ตัว แคทนิส เองถูกมองได้ว่าเป็นทั้ง กระบอกเสียง และ หุ่นเชิด 
 
การดำเนินเรื่องไม่กระชับ ช่วงกลางดูยืดเยื้อ มีการไขปมเก่าพร้อมขมวดปมใหม่ไปพร้อมๆกัน แน่นอนว่าใครไม่เคยดูภาคก่อนๆมาย่อมตามเรื่องไม่ทัน พาร์ทความเป็นโรแมนติกกับดราม่าการเมืองมีสัดส่วนไม่ลงตัว จึงดูไม่กล่อมกล่อม ขาดๆเกินๆ ทำให้เราไม่อิน ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่ผู้กำกับต้องเก็บของดีเอาไว้ไปปล่อยในภาคจบ ผู้ชมจึงเหมือนถูกจับให้นั่งดูการโหมโรงเบาๆก่อนเข้าสู่สงครามปฏิวัติ หลายฉากน่าอึดอัดในความอั้นหรือกั๊กของหนัง แต่สิ่งที่ ฟรานซิส ลอว์เรนซ์ ผู้กำกับทำได้ดีคือบรรยากาศความหวาดระแวงไม่ไว้ใจกันของตัวละคร 
 
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgO8S3zuF1fL-XPRVjlFw-NAJk3xgtBv3efA57rsT-hHuVbpeZsoQcVQSI1JUEKCEYZCivL8ga8aP6EaXSnBzyPVDXQRHHVKfmR4tYapLadfM8XuUs9kW5nKdeknya-EkRHoL42xctGY80/s1600-h/8feb6e87667d82d5355ff4f61bb61bf1%25255B5%25255D.jpg"><img alt="8feb6e87667d82d5355ff4f61bb61bf1" border="0" height="343" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi8d4vVilRAtS87zmZvy_zrR2xxZpKr0q-OdowH0OZzjUuJ9SlwPwlp9_bYJo_I5KF6pMecCwuTDzDKXvGZdFzxR_lUHd1-M5UPKKWvCMl8NK0QZlLYafUdiybKRI6TllWleDGNQtvnjh0/?imgmax=800" style="border-bottom: 0px; border-left: 0px; border-right: 0px; border-top: 0px; display: block; float: none; margin-left: auto; margin-right: auto;" title="8feb6e87667d82d5355ff4f61bb61bf1" width="483" /></a> 
 
เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ยังคงสำคัญที่สุดในเรื่อง จะบอกว่าโอบอุ้มตัวหนังไว้ก็ได้ เพียงแต่ในภาคนี้มีดารามากฝีมือมาช่วยสร้างสีสันหลายคนทั้ง ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน , จูเลี่ยน มัวร์ และ โดนัลด์ ซัทเธอร์แลนด์ ถึงจะได้ออกจอน้อยเมื่อคิดเป็นนาที ทว่าแต่ละคนก็ทำให้คนดูเห็นถึงฝีมือการแสดงที่น่าจดจำ เลียม เฮมส์เวิร์ธ ดูด้อยลงไปเยอะเพราะมีซีนประกบกับ เจน ลอว์ บ่อย เขายังถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ไม่มีชีวิตชีวานัก ขณะที่ จอช ฮัทเชอร์สัน โผล่ไม่มากตอนแต่โดดเด่นในทุกครั้ง อีกคนที่น่าติดตามคือ แซม คลาฟลิน ที่เล่นเป็น ฟินนิค ซึ่งเริ่มมีบทบาทขึ้นเรื่อยๆ 
 
โดยรวม The hunger games mockingjay part 1 ค่อนข้างแย่กว่าสองภาคที่ผ่านมา ไม่ใช่ทุกคนที่จะดูสนุก แม้แต่แฟนๆขาประจำ จุดเด่นคือการแสดงอันสุดยอดของดาราหลายๆคน ติดตรงข้อจำกัดของการเป็นหนังภาคต้น กระนั้น หากมองในแง่หน้าที่ของมันคือการปูทางไปสู่ภาคจบที่สมบูรณ์ ก็นับว่าตอบโจทย์ได้สำเร็จ ทุกคนที่ออกจากโรงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รอภาคต่อไปไม่ไหวแล้ว 
 
 
 
คะแนน 8/10 
<a href="http://pantip.com/topic/32880812" title="http://pantip.com/topic/32880812">http://pantip.com/topic/32880812</a>

วิจารณ์หนัง : The hunger games mockingjay part 1

เดินทางมาสู่ภาคสุดท้ายแล้วสำหรับ The hunger games ภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายแฟนตาซีชื่อดังที่แจ้งเกิดนักแสดงหลายคนโดยเฉพาะ เจนนิเฟอร์ ลอ...

วิจารณ์หนัง "เร็วทะลุเร็ว"

<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg1vNwvQY4nUqac1ndiu3gguRD-7nFsHjH8pVr6m93mbDGBm5hZPW5lE-QIZ5jaeSY9313c6rJjPQM1geX5cQa-g2S9ek_5zGN0HgxKozE0rQbb7MD0apc4865ycW2UVofAN1jkCUD2Wqg/s1600-h/1415637342-1064490198-o%25255B4%25255D.jpg"><img alt="1415637342-1064490198-o" border="0" height="394" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgvUPp3ZbD3bdJWEVbTKjbn1dsL__TvLBmp6vYsxSBCg_3lNmLiLMMznwwcN3Wrk0-m5M_4um-tJ541uSR6N8bKaNYZfuLbL_li-c4AjxiyFBH74uTEYRrG_FclQcfwlILFfvtc3z3WHgE/?imgmax=800" style="border-bottom-width: 0px; border-left-width: 0px; border-right-width: 0px; border-top-width: 0px; display: block; float: none; margin-left: auto; margin-right: auto;" title="1415637342-1064490198-o" width="524" /></a> 
 
เร็วทะลุเร็ว เป็นหนังเรื่องสุดท้ายของผู้กำกับคิวบู๊อันดับหนึ่งของเมืองไทยที่เป็นคนสำคัญที่ทำให้หนังอย่างต้มยำกุ้ง องค์บาก และตัว จา พนม โด่งดังไปทั่วโลก โดยเร็วทะลุเร็ว เป็นหนังเรื่องสุดท้ายที่คุณพันนา ได้กำกับเองเป็นเรื่องสุดท้ายก่อนจะจากไปครับ 
 
น่าเสียดาย ที่เรื่องทิ้งท้ายของคุณพันนาเรื่องนี้ ไปได้ไม่สวยเท่าไรนัก ปัญหาหลักๆ ก็ยังคงเป็นปัญหาอมตะที่วนเวียนอยู่กับหนังไทยมาช้านาน นั่นคือเรื่องบทหนัง บทหนังเรื่องนี้จับต้นชนปลายไม่ถูก อยากจะใส่อะไรก็ใส่ ไม่สนเหตุผลและที่มาที่ไป สร้างบทลวกๆขึ้นมาเพื่อเพียงแค่นำหนังไปสู่ฉากแอ๊คชั่นที่มีอยู่ทุกนาทีในหนัง 
 
หรือผู้สร้างหนังของไทยเราจะคิดเพียงแค่ว่า “หนังแอ๊คชั่น” ก็ใส่แอ๊คชั่นเข้าไปเยอะๆสิ ให้มันเตะต่อย เตะต่อย กันเยอะๆเข้าไว้ คนดูก็สนุกเอง 
 
จริงๆหากเปรียบหนังกับขนมหวานอย่างอมยิ้มสักแท่ง ตัวอมยิ้มเองจริงๆมันก็คือก้อนน้ำตาล แต่การที่มันเป็นเพียงแค่ก้อนน้ำตาล มันคงจะขาย และหลอกเด็กว่ามันเป็น “อมยิ้ม” คงไม่ได้ อมยิ้มเลยต้องมีการเสริมเติมแต่งสีสัน รูปร่างหน้าตา ดึงดูดให้คนกินรู้สึกอยากกิน ทั้งๆที่สุดท้ายแล้วมันก็คือน้ำตาลเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ บทหนังก็เหมือนกันครับ ไม่จำเป็นต้องให้มันเลิศหรูสะแมนแตนระดับโนแลนรวมร่างฟินเชอร์ ขอเพียงแค่มีบทหนังดีๆที่ให้คนดูอินไปกับมัน เชื่อมัน และสุดท้ายแอ๊คชั่นที่ธรรมดาๆมันก็จะมันกว่าเดิมหลายเท่าตัว 
 
ปัญหาใหญ่อีกอย่างของหนังเรื่องนี้ คือนักแสดงทุกคนในหนัง ทุกคนดูมือสมัครเล่นแบบเห็นได้ชัด แม้เราไม่ได้อยู่ในวงการภาพยนตร์เลยก็ตาม ทุกคนดูล้นไปหมด แถมยังแสดงเหมือนกำลังยืนท่องบทให้ดูชม ยิ่งช่วงดราม่านี่ไม่ต้องพูดถึง ปล่อยพลังดราม่าซะแทนที่คนดูจะเศร้าจะอิน ดันทำให้คนดูหัวเราะได้ซะงั้น 
 
แต่ แต่ แต่ 
 
ต้องขอบอกว่าจากการดูตัวอย่าง และมีประสบการณ์ที่ไม่ดีนักกับหนังทุนสร้างหลายร้อยล้านเรื่องต้มโคล้งกั้ง 2 ทำให้ผมดูถูกเรื่องนี้ไว้ค่อนข้างสูงมาก ถึงขั้นแอบคิดไว้เลยว่าจะด่าตรงไหนดี (จากแค่ดูตัวอย่าง) แต่ทว่าหนังเรื่อง “เร็วทะลุเร็ว” กลับเหนือชั้นกว่า ต้มโคล้งกั้ง 2 อย่างเห็นได้ชัด 
 
สิ่งที่น่าชื่นชมสิ่งแรก คือเหมือนผู้สร้างจะรู้ตัวเองดีว่าต้องการสื่อสารอะไร และขอบเขตของหนังควรจะอยู่ตรงไหน ไม่สร้างให้มันเวอร์ บ้า และไร้สติแบบต้มโคล้งกั้ง 2 ฉากแอ๊คชั่นเรื่องนี้ก็ดูดุดัน สนุก ฉับไว และพยายามสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆเข้าไปในหนังอย่างฉาก Long Take ทั้งสองฉากในหนัง ที่ถึงแม้ไม่ได้สมบูรณ์เพอร์เฟค ดูไม่สมจริงไปหน่อย แต่ก็สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้คนดูได้พอสมควร (แต่ก็ด้วยความที่บทมันไม่ดี ก็ทำให้ฉากแอ๊คชั่นเยอะๆที่ใส่มามันดูเยอะและชวนง่วงในหลายๆครั้งครับ) 
 
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมสนุก ไม่รู้ว่ามันจะเป็นข้อดีหรือข้อเสียดี ก็ตรงที่ผมบ่นไปนั่นแหละในเรื่องบท และการแสดง ที่มันออกแนวล้นจนเข้าขั้นฮาเฉยเลย ความเวอร์ไร้สาเหตุของฉากแอ๊คชั่น อย่างตำแหน่งยืนของผู้ร้ายที่ไปยืนอยู่ตรงถังน้ำมัน ฉากกระโดดคร่อมผู้ร้ายแล้วยิงอัดจากชั้นดาดฟ้ามาชั้นล่าง ฉากรถไฟชนเครื่องบิน และอีกต่างๆนาๆ รวมไปถึงความเยอะของนักแสดงที่ทำให้ฮาออกมาได้แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย คือจะเรียกว่าหนัง Cult ได้เลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ 
 
ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้ผมคิดนะ คิดมาตั้งแต่ต้มโคล้งกั้งสองละ ว่าผู้สร้างจะไปขยันสร้างหนังแอ๊คชั่นซีเรียสจริงจังปมยุ่งเหยิงทำไมทั้งๆที่ตัวเองก็รู้ว่าบทเป็นจุดอ่อนของหนัง ทำไมไม่ทำให้หนังมันฮา บ้า รั่ว ไปเลย ถ้าทำหนังออกมาโทนนี้ หนังจะพลิกหน้ามือเป็นหลังมือไปเลยนะครับ แต่ด้วยความที่หนังมันตั้งใจซีเรียสเครียดและจริงจัง ความฮาที่เกิดขึ้นมันเลยหลุดมาจากความผิดพลาด ซึ่งมันก็ไม่ใช่จุดที่ควรจะยอมรับได้ (ดูอย่าง Expendable จริงๆบทมันไม่ได้ดีเด่อะไร แต่ด้วยความที่หนังตั้งใจโม้ ตั้งใจฮา มันก็เลยไปได้รอดตลอดรอดฝั่ง) 
 
สุดท้าย ผมอยากจะตั้งคำถามกับผู้สร้างหนังไทยว่าการสูญเสียบุคคลอันมีค่าในวงการภาพยนตร์ไทย มันควรจะเป็นบทเรียนอะไรให้เราได้บ้าง การจากไปพร้อมหนังเรื่องสุดท้ายเรื่องนี้ของคุณพันนา มันไม่ได้ยกระดับความยิ่งใหญ่ของคุณพันนาให้ดีขึ้นอย่างที่ควรจะเป็นเลย ทั้งๆที่ฝีมือคิวบู๊ของคุณพันนานั้นสามารถจัดอยู่ในระดับท๊อบๆของศิลปะการต่อสู้ในเอเชียได้เลยซะด้วยซ้ำ น่าเสียดายนะครับ 
ขอไม่สรุปเป็นเกรดตอนท้ายนะครับ เพื่อเป็นเกียรติกับคุณพันนา เพราะในแง่ความเป็นจริง ส่วนของคิวบู๊ คุณพันนา ก็ทำได้ยอดเยี่ยม เพียงแต่บทหนังมันลากหนังลงไปอยู่ในระดับที่ต่ำเกินกว่าจะยอมรับว่าเป็นหนังดีได้ครับ 
 
<a href="http://pantip.com/topic/32838234" title="http://pantip.com/topic/32838234">http://pantip.com/topic/32838234</a>

วิจารณ์หนัง "เร็วทะลุเร็ว"

เร็วทะลุเร็ว เป็นหนังเรื่องสุดท้ายของผู้กำกับคิวบู๊อันดับหนึ่งของเมืองไทยที่เป็นคนสำคัญที่ทำให้หนังอย่างต้มยำกุ้ง องค์บาก และตัว จา พนม ...

วิจารณ์หนัง The Eyes Diary คนเห็นผี

<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhdSV7T0iKS-0n32rm6sE8B8hDJk_1wtZrD1PeTPTEes-PW4z_6DZ8L-F2MwHRU0YBYnqyp84B0nWB4m1yFqWn5-Qy9ugByKWJsFga9edJys3Zv5JZLezqW-HhmSZfZY4YrUR8EbAVmjy4/s1600/IMG_9767_resize+(1).jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhdSV7T0iKS-0n32rm6sE8B8hDJk_1wtZrD1PeTPTEes-PW4z_6DZ8L-F2MwHRU0YBYnqyp84B0nWB4m1yFqWn5-Qy9ugByKWJsFga9edJys3Zv5JZLezqW-HhmSZfZY4YrUR8EbAVmjy4/s1600/IMG_9767_resize+(1).jpg" /></a></div>
 
 
หากเป็นมนุษย์ปถุชน ที่ยังไม่ถึงขนาดละทิ้งซึ่งเรื่องทางโลก หรือถ่องแท้ถึงสัจธรรมแห่งชีวิตไปแล้ว ย่อมต้องเกิดความทุกข์จากการสูญเสีย เป็นเรื่องปกติ ซึ่งนั่นคือปฏิกิริยาต่อยอดจากความที่เคยสุข และโหยหาไม่อยากให้ สุข ที่เคยมีนั้นหนีไปไหน ดังเช่นตัวละครแห่ง The Eyes Diary ที่วนเวียนอยู่กับประเด็นเหล่านี้ จมดิ่ง และหนีไปไหนไม่รอดจากก้นบึ้งอดีต ไม่ว่าจะในฐานะคน หรือ วิญญาณ ต่างก็ยังวนเวียนในที่มืด ไม่ยอมพบทางสว่างเสียที 
 
The Eyes Diary เล่าเรื่องราวของ น็อต หนุ่มอาสามูลนิธิ ทีแฟนสาวสุดที่รักอย่าง ปลา ต้องมาจากไปเพราะอุบัติเหตุ ทำให้เฝ้าตรอมตรม คิดถึงแต่เรื่องอยากมองเห็นผีให้ได้ เพราะอยากจะสื่อสารกับ ปลา อีกสักครั้ง ด้วยการเก็บของคนตายมาไว้ในบ้านของตัวเอง ตามหลักความเชื่อที่ได้อ่านมา แต่ในขณะที่เพื่อนรอบข้างต่างเจอะเจอกับของดี! มีเพียง น็อต ที่ยังไม่สามารถเห็นได้ดังใจ พร้อมกับการเข้ามาของ มดตะ สาวที่กุมปมชีวิตบางอย่างไว้ ที่ทำท่าจะเข้าอกเข้าใจ น็อต เป็นอย่างดี และ จอห์น เพื่อร่วมอาสา ที่แสดงท่าทีเฉยเมยต่อความอยากเห็นผี เสียจนน่าสงสัย 
 
ก่อนอื่นคงต้องชื่นชมผู้กำกับ มะเดี่ยว ชูเกียรติ และยกความดีให้ความชอบให้่ The Eyes Diary ไปเต็มๆ ก่อนหนึ่งข้อ คือการเลือกแง่มุมตีความโลกวิญญาณในหนัง ที่ไม่ได้เฝ้าแต่จะมุ่งเน้นการหลอกหลอน เขย่าขวัญคนดูด้วยความเละเทะ สยดสยองเลือดสาด แต่เป็นการมองอย่างเข้าอกเข้าใจ (จนบางครั้งก็น่าเห็นใจ) เสมือน คน และ ผี หลอมรวมและใชัชีวิตอยู่ในโลกมิติเดียวกัน ที่ซ้อนทับกันเลือนลาง ขวางกั้นด้วยเพียงควันบางๆ เท่านั้น และไม่มีเหตุผลอะไรที่คนเป็นอย่างเราๆ ต้องไปวี๊ดว๊ายกลัวคนตาย เพราะพวกเขาก็คือปถุชน มีสุขมีเศร้า เหมือนคนเราทุกประการ เพียงแต่สภาพการปรากฏอาจจะไม่ได้สวยงาม เพียงเท่านั้นเอง ซึ่งหากตัดเปลือกแห่งความน่ากลัว เน่าเฟะ น่าสะพรึงออกไป เราก็จะสามารถมองบรรดาผีทุกผู้ตัวตน อย่างเข้าใจ และพร้อมเปิดรับเข้าช่วยเหลือ มากกว่าจะไปวิ่งหนีให้แตกตื่นไร้ประโยชน์ 
 
ซึ่งทัศนคติแดนบวกที่มีต่อสิ่งที่คนทั่วไป ตราหน้าว่าน่ากลัวไม่ควรเข้าใกล้เช่นนี้ ก็ทำให้ตัวละครที่วอดวายกลายเป็นผีไปตั้งแต่ต้นอย่าง ปลา ดูท่าจะจูนติด และคงความสัมพันธ์ในระดับที่รับรู้ได้กับตัวละครที่มียังมีลมหายใจ อย่าง น็อต จนคนดูรู้สึกถึงความโหยหาอดีต โหยหาความสุขที่เคยมี จากทั้งสองฝ่ายได้ แต่ถึงกระนั้นปมประเด็นดราม่านี้ ก็ขับเน้นให้ตัวละคร มดตะ และ จอห์น ที่มีเป้าประสงค์ และที่มาอย่างคลุมเครือในตอนแรก ก่อนจะมาเผยในภายหลัง ให้ดำรงเป็นผู้ช่วย ประเภทเฮไหนเฮนั่น ฉันไปด้วย มากกว่าจะไปเสริมเรื่องราวให้เข้มข้น ซ้ำร้ายมุมมองที่น่าสนใจที่เปิดไว้ในช่วงแรกนี้ กลับถูกทำลายลงอย่างช้าๆ ก่อนจะแหลกสลายเมื่อผ่านไปถึงกลางเรื่อง และว่ายน้ำออกทะเลไปสู่ประเด็นอื่น และมุมมองกลับสลับขั้วในช่วงท้ายไปเสียเฉยๆ อาการผีเข้าผีออกนี้จึงทำให้หนังทั้งเรื่องออกมาไม่ถึงกับมีประเด็นแข็งแรง น่าประทับใจ หรือในขณะเดียวกัน ก็ไม่สยองเขย่าขวัญเสียจนแทบทนไม่ไหวเช่นกัน 
 
อาการรักพี่ดราม่า เสียดายน้องสยองขวัญ ที่ประดักประเดิดพอตัวนี้ ส่งผลโดยตรงให้หลายๆ การกระทำของตัวละครดูแบนราบไร้เหตุผล จนบางครั้งก็น่ารำคาญอยู่ไม่ใช่น้อย แต่ถึงกระนั้นสำหรับใครที่คุ้นเคยกับขนบ หรือลายเซ็นบางอย่างของผู้กำกับ มันยังคงปรากฏผ่านจริตของตัวละคร ลูกล่อลูกชนเล็กๆน้อยๆ ที่แอบซ่อนไว้ และมุขตลกเย้าแหย่แบบหยอกแกมหยิก สไตล์วัยรุ่น ที่น่าจะทำให้แฟนๆ ได้เสพสิ่งที่ต้องการอย่างไม่ผิดหวัง ถึงแม้นี่จะไม่ได้ซุกซ่อนความดราม่า ถึงแก่นชีวิตแบบ รักแห่งสยาม หรือ เขย่าขวัญชวนอึดอัด สะดุ้งเฮือกแบบ 13 เกมสยอง แต่สิ่งที่ยังคงพูดกับคนดู และเป็นสิ่งที่ผู้กำกับ มะเดี่ยว ยังคงพูดถึงอยู่เสมอ คือการติดอยู่ในทุกข์ เพราะโหยหาความสุขที่ดูเหมือนจะใกล้แต่กลับไกลห่าง ไม่ว่าจะชีวิตร่ำรวย ที่ต้องผ่านการทำผิดศีลธรรม ความสวยงามของรักวัยรุ่น แต่รักร่วมเพศก็สิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ หรือแม้แต่ความต้องการมองเห็น พูดคุยกับแฟนสาวที่ตายไปแล้ว แต่หน้าต่างของสองโลกก็ไม่ยอมเปิดออก และการส่งเสียงเรียกร้องจากคน (หรือผี) ที่ไม่มีใครเห็น ใครสนใจ เพื่อที่จะได้มีที่หยัดยืนในสังคม หรือในสายตาของคนที่ตัวเองรัก 
 
เรื่องนี้ให้ 8/10 ครับ 
 
 
โดย Lecter mthai

วิจารณ์หนัง The Eyes Diary คนเห็นผี

หากเป็นมนุษย์ปถุชน ที่ยังไม่ถึงขนาดละทิ้งซึ่งเรื่องทางโลก หรือถ่องแท้ถึงสัจธรรมแห่งชีวิตไปแล้ว ย่อมต้องเกิดความทุกข์จากการสูญเสีย เป็นเร...

วิจารณ์หนัง O.T. ผี Overtime ครั้งนี้จะเจอผีหรือเจอแผน

<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgf4q4MSAd2eT9N8VUnJE1A4xZngGL1jzbuDvVuggj8NPlSt7Mi5z_6UcXNIP_NFvJHtfvIH_jGMmvEdfBlqPgWXzlXXJ-8VsAERJ3ipC20ni7LIrIP-MkJH-BvZoXTK4JIcHdGKE-UH4o/s1600-h/865464%252520%2525281%252529%25255B1%25255D.jpg"><img alt="865464 (1)" border="0" height="472" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhbyKXk8H07VHdRldT3_P28_WXzGYtUosAvLRVjjKyell1hHHFkwg8LhzJW12ay4Q6wpsyLQ7nS02_aaB5SROkwi8gJHVMiEyiegJG_XUUWzfLVC-Y1fX7_nf9Uz6elv3rjnnJbkjJCYqs/?imgmax=800" style="border-bottom: 0px; border-left: 0px; border-right: 0px; border-top: 0px; display: block; float: none; margin-left: auto; margin-right: auto;" title="865464 (1)" width="644" /></a> 
 
'O.T. ผี Overtime' ภาพยนตร์ระทึกขวัญ สานต่อความสนุกสุดหักมุมจากตอน O.T. ตอนหนึ่งในภาพยนตร์ ตีสาม ที่เคยฝากความสยองปนเสียงหัวเราะ 'O.T. ผี Overtime' ฝีมือการกำกับของ 'อิสรา นาดี' เป็นการเล่าเรื่องหลังจากที่ การัน (ชาคริต แย้มนาม) และที (เร แมคโดแนลด์) โดนลูกจ้างที่กลายเป็นผีหลอกกลับ ถึงแม้จะรอดมาได้ แต่ก็มีอาการประสาทหลอน เดือดร้อนถึง บดินทร์ (อนันดา เอเวอริงแฮม) มาช่วยดูแลบริษัทแทน และได้รับงานจัดงานแต่งงานจากข้อเสนอของ อั้น (อัครัฐ นิมิตรชัย) แต่สถานที่จัดงานดันเป็นโรงแรมที่มีเรื่องเล่าชวนขนลุก ความสยองจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง 
 
ภาพยนตร์ยังคงดึงเสน่ห์เรื่อง 'การหักมุม' ออกมาได้อย่างดีเช่นเคยเหมือนตอน O.T. ยิ่งนำมาทำเป็นภาพยนตร์เรื่องยาวแล้ว สามารถใช้ช่วงเล่าเรื่องหลอกคนดู ตบท้ายด้วยการหักมุมหลายตลบ เกินกว่าที่ผู้ชมจะคาดเดาเรื่องที่เกิดขึ้นได้ จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่ภาพยนตร์ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมเช่นเคย คือ 'มุกตลก' ที่ถูกใส่ในตัวละครแต่ละตัวได้ถูกจังหวะ ไม่พยายามยัดเยียดมุกจนเกินไป ส่วน 'ความสยอง' ก็มีหลายฉากที่ทำให้สะดุ้ง จนผู้ชมสับสนว่าตอนนี้ 'เจอผี หรือ เจอแผน' 
 
ด้านบทบาทการแสดง ภาพยนตร์ไม่ได้โยนบทเด่นให้กับตัวละครใดเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหลักหรือตัวละครสมทบ ต่างมีบทบาทเท่าๆ กันทั้งสิ้น แถมนักแสดงที่เข้ามาสวมบทบาทก็แสดงได้เป็นธรรมชาติ ดูไม่ขัดตา ยิ่งทำให้แผน 'คนหลอกคน' ดูแนบเนียนจนคนดูเชื่อสนิทใจ บทบาทนักแสดงจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภาพยนตร์ดูไหลลื่นไม่น่าเบื่อ 
 
ถ้าใครหลงเสน่ห์การหักมุมแบบหลายตลบจากตอน 'O.T' ก็ไม่ควรพลาดเรื่องนี้ ยิ่งเวลาในการเล่าเรื่องมากขึ้น ทำให้เพิ่มน้ำหนักในการหักมุมได้มากขึ้น ความสนุกสนานก็เพิ่มมากขึ้น ตัวละครเยอะ แต่ก็ไม่ทำให้เรื่องดูวุ่นวายจนการเล่าเรื่องขาดเสน่ห์ไปแม้แต่นิดเดียว ผู้เขียนขอให้คะแนนเรื่องนี้ 4/5 คะแนน 
 
 วิจารณ์โดย <a href="http://www.dailynews.co.th/Content/Article/276685/O.T.+%E0%B8%9C%E0%B8%B5+Overtime+%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%9C%E0%B8%B5%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%3F" target="_blank">dailynews</a>

วิจารณ์หนัง O.T. ผี Overtime ครั้งนี้จะเจอผีหรือเจอแผน

'O.T. ผี Overtime' ภาพยนตร์ระทึกขวัญ สานต่อความสนุกสุดหักมุมจากตอน O.T. ตอนหนึ่งในภาพยนตร์ ตีสาม ที่เคยฝากความสยองปนเสียงหัวเราะ...

A Merry Friggin' Christmas หนึ่งในผลงานล่าสุดของ โรบิน วิลเลียมส์ ที่ถ่ายทำเสร็จก่อนเสียชีวิต

<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgKFzYjtOqxOjW7e1_q3NTGjbw3lk29N1d68axO6MScu2roO_59yFypwJU-8s55RPHpFVARsf4kyjsktuSUajhW77AMKmhGBgg63KmyG1INAO4L9Khhr3-KEmhBPtvUjOUIJ6D1h1sQyMs/s1600-h/mnc1%25255B3%25255D.jpg"><img alt="mnc1" border="0" height="402" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjJ4gYhp1nJmvcGnZbBNWOQnXtrO9JJHbEKgJIfxTFIE22HWB8lOcdmB1ijJMA0XtKeIxw4qpW4ploGT7ODIjHq-hbXSLGbceUSr7p5sBolprkPs31Z9vrNiIqXZNWmdvCWdtCAMJWSv64/?imgmax=800" style="border-width: 0px; display: block; float: none; margin-left: auto; margin-right: auto;" title="mnc1" width="604" /></a> 
 
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiwOZ8rT3hxgwtZUcFQneOs_EBkxDEWORe2S5dVHtQDqkEj8EPTqeBqAjIWrSk6TC0v4HpU2OXA1jXx2_7E6ZMlANGTwwOfNTFGu234ybEncRpsVyhnPY2glHeyShEQO_aM3tHdKMghj2M/s1600-h/mnc2%25255B3%25255D.jpg"><img alt="mnc2" border="0" height="402" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjF5OFzJ8sL5saVIT11_kw2tCCB4XsxOjRRlYfW36bpMaPL-YyRnsQNQuVwTxrMJ6tAG9WLbCv036vfOK4-zHdJhyphenhyphen7p-nb2ewnKKo3uEjOvjAt_P35eedNypEZJhWd7FInw58hSiwWHSPA/?imgmax=800" style="border-bottom-width: 0px; border-left-width: 0px; border-right-width: 0px; border-top-width: 0px; display: block; float: none; margin-left: auto; margin-right: auto;" title="mnc2" width="604" /></a> 
 
เผยตัวอย่างแรก A Merry Friggin' Christmas หนึ่งในผลงานล่าสุดของ โรบิน วิลเลียมส์ ที่ถ่ายทำเสร็จก่อนเสียชีวิต 
 
          เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2014 เฟซบุ๊กทางการภาพยนตร์ A Merry Friggin' Christmas ได้ปล่อยตัวอย่างแรก A Merry Friggin' Christmas หนังแนวคอมเมดี้ของ โรบิน วิลเลียมส์ (Robin Williams) หนึ่งใน 4 ผลงานที่เขาถ่ายทำเสร็จสิ้นก่อนจะเสียชีวิตออกมาให้ได้ชมกันแล้ว โดยในเรื่องนี้ โรบิน วิลเลียมส์ รับบทเป็น มิทช์ พ่อของ บอยด์ มิทช์เลอร์ ซึ่งรับบทโดย โจเอล แม็คเฮล (Joel McHale) ที่ว่าด้วยเรื่องความสัมพันธ์ของพ่อกับลูก 
 
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgBzsY3f8eEMG4EN-3pdr1TmUmLvSU93d2PUU76K6mGNYQJFbkGahGNc2496xvrV5ymd9SeRMT-SNPCn57-Wivyd3q0tLfTdNUY2XLqu4NLQMGnl9DXbif74LbJ0mPS7pMnHfSgDEhSKSE/s1600-h/mnc3%25255B3%25255D.jpg"><img alt="mnc3" border="0" height="224" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjz6dsBe7kQDZakSckr5PCl2goafUksmHVC0QGvMiPBp75sfEo7ey9yQn0QuSdW1MysYQLy2WF7nHYJ-JtIcbMkZQ1ixJ3k9hrdK4ojfqtdaqreG-11pzRkbrW_u1B35x8vTeBqEDzmSDI/?imgmax=800" style="border-bottom: 0px; border-left: 0px; border-right: 0px; border-top: 0px; display: block; float: none; margin-left: auto; margin-right: auto;" title="mnc3" width="604" /></a> 
 
          ทั้งนี้ Merry Friggin' Christmas บอกเล่าเรื่องราวครอบครัวของ บอยด์ มิทช์เลอร์ (โจเอล แม็คเฮล) และภรรยา ลูแอน (ลอเรน เกรแฮม) ที่จำใจกลับไปเยี่ยม มิทช์ (ลอเรน เกรแฮม) คุณพ่อและสมาชิกครอบครัวสุดประหลาดที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด แต่เมื่อพวกเขาเดินทางถึงบ้านของมิทช์ บอยด์กลับพบว่าตัวเองลืมของขวัญวันคริสต์มาสสำหรับลูกชายเอาไว้ที่บ้าน ดังนั้น บอยด์ จึงต้องเดินทางกว่า 8 ชั่วโมงร่วมกับน้องชายและพ่อ เพื่อกลับไปเอาของขวัญให้ทันรุ่งสาง 
 
          โดย Merry Friggin' Christmas มีกำหนดเข้าฉาย 7 พฤศจิกายน 2014 ร่วมแสดงโดย ลอเรน เกรแฮม (Lauren Graham), เพียร์ซ แกกนอน (Pierce Gagnon), เวนดี้ แม็คเกรนดอน-โควี่ย์ (Wendi McLendon-Covey), โจเอล แม็คเฮล (Joel McHale), แคนดีส์ เบอร์เจน (Candice Bergen), คลาร์ค ดุ๊ก (Clark Duke) และแมตต์ โจนส์ (Matt Jones) ภายใต้การกำกับของ ทริสแทรม ชาพิโร (Tristram Shapeero) 
 
 
<div align="center">
</div>
<iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="390" src="//www.youtube.com/embed/TGkBu_qALpg" width="640"></iframe> 
<div>
 
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgQTP96rDgif2DCy5a3T07UhR0NeTLVcIwytoOTLkVTnjSY6WbQEbqbVeWAYsvOMjANA1Ylz1N3VaQtRiZZ6Gtog-ov7oKkdA6c3000WFmh44CZPdgm7b52ZBsDKZwjCDD81M-WQnYcFSU/s1600-h/mnc4%25255B3%25255D.jpg"><img alt="mnc4" border="0" height="404" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgUJn1c2VPNKG7SdehC-82WQ9v16jpdwp48bUP0Xi-aBV7RORpJR-zBxOWhisx2Fe2GO5MZWCpydVtxi9A_Hs9i9qky8w1uznQdt-h4KeGWnoIH7CrLdTpTYHel4X3AUzkO_Q5hKc168qI/?imgmax=800" style="border-bottom: 0px; border-left: 0px; border-right: 0px; border-top: 0px; display: block; float: none; margin-left: auto; margin-right: auto;" title="mnc4" width="604" /></a> 
 <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhLKX_-AWZDxCZXC6tnCgUuGUNx21ZFFDh1jiagmuA2soGZMmCsOW0D4CkiD8mhAhC6AlRq32r2gNaW-rAOeXcxOXp3EKy7HzvD1o_52wbtcNmWQTYMTrRnhvUmzig8ixc4vAgfpj-BYFY/s1600-h/mnc5%25255B3%25255D.jpg"><img alt="mnc5" border="0" height="404" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEivytCIU-czJ8X8vtrWZ3SuZYg0CWf-_NP0NlZmBaYEUDTFXOx2WYsHRLDvA88DLGA8k9gjOBQauWpJVf99eq7VOrCZv8y_VwrYhrZjQ_qoEXjs-feZbvKlBfC_5q0kg_adjXKggbVtxm4/?imgmax=800" style="border-bottom: 0px; border-left: 0px; border-right: 0px; border-top: 0px; display: block; float: none; margin-left: auto; margin-right: auto;" title="mnc5" width="604" /></a> 
 <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgM_0jwmCd4iqcKoWbFjq90B7H9BxaA7PyUqgLURv4vWoppHrGr323H5tPWvG6dQcKdkQrMj0ZGosfRKfDT441LRtcDPcni4pu-IwVEQDDS70LbTEbCZQOji-XlWCGNMk9N64_IyNWW-hE/s1600-h/mnc7%25255B3%25255D.jpg"><img alt="mnc7" border="0" height="404" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgX7j3cerUJY-lZKynPtjTZBW1LtNZP5IZ0FIHonBwYC_ckiqGkNbBq0NAsj6gPuWEJuwiEpDv9VU3csBx8xPPjqbUhDn3jtUACxEPh7P_bIkcNUNzSJ9nTpM3ZhJaQ_reUH9FNJFV4tSg/?imgmax=800" style="border-bottom: 0px; border-left: 0px; border-right: 0px; border-top: 0px; display: block; float: none; margin-left: auto; margin-right: auto;" title="mnc7" width="604" /></a> 
 <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgFxDhHVtVR8Z1O7VM_dHPdtxclaByTmheACDWGH5L0JeocI-cSG47KD1R1Gwjr3ityKyUhyFALBFuHSonU8uCotGEla0_xuHB4iwyrgnef_rwQBatcdMIfMR5s6FILVdLli7slSWDZI8k/s1600-h/mnc8%25255B3%25255D.jpg"><img alt="mnc8" border="0" height="403" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiIudWc0KBWbKBQptwW4rSmvUvTtkaGgKEZpf1MroVhG2irlzD46BjB6THNboUOOYnDjmt1XTL_kxrACi1LrDEepECtn236tVKh5vpX4Rd9KFxP0rfwXdDw7_Q7po-rjlvUgKPGyG57mRc/?imgmax=800" style="border-bottom: 0px; border-left: 0px; border-right: 0px; border-top: 0px; display: block; float: none; margin-left: auto; margin-right: auto;" title="mnc8" width="604" /></a> 
 <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgFjPUX9XdDYlOT_SHjIZLO_wmnFgBQHI8aWWUXCj4m7yZ-NpOisIE87IOgyQrvUhZGJvZm-HfD3H36q6kSfqESLc86rHYrAIgoT5Gx-QfKV_KvlNuuODlmiCWNp7XUyUY4VRkOTvahu4E/s1600-h/mnc9%25255B3%25255D.jpg"><img alt="mnc9" border="0" height="403" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhTL9krNGKjTNgl7UjOcc404s64FUB1CDW2eL6wMSak-3cTCleF4g-VAV4acw-vYjnGHor-xY9YHFVTVJMrvEo4sys4gICEIbeJzf43-YgqimDus32gyTZk2ynYdKENGrwd1mgo0SpXvK8/?imgmax=800" style="border-bottom: 0px; border-left: 0px; border-right: 0px; border-top: 0px; display: block; float: none; margin-left: auto; margin-right: auto;" title="mnc9" width="604" /></a> 
 <a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjApqRb7VcRc8KoRhYSLjjDHc3DtZlOGOzYdsMvIs439Sb6ly3otCXeo7G8ce-4_FHcwwsC_BENnRvSxW1TSr0SPC_K0xOoRXCpF3TNx4a77r2tiBjMj4CEtbDeNC3FNTcspavHFKsqw1E/s1600-h/mnc10%25255B3%25255D.jpg"><img alt="mnc10" border="0" height="404" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiMap84kXiGBT2d0kPK-kw3dnFucC5hJ6AUAzge7ebqER2BmXn8JlKsfUEb3J9vPhY6mS1Z9faK_dRkP53E8uXRPkAr-ZznPyRmqJOPAIa21pKHtKHTr_OmWXDnEGLIM3NNchMJ1EkT8dQ/?imgmax=800" style="border: 0px; display: block; float: none; margin-left: auto; margin-right: auto;" title="mnc10" width="604" /></a> 
 
ที่มา kapook</div>

A Merry Friggin' Christmas หนึ่งในผลงานล่าสุดของ โรบิน วิลเลียมส์ ที่ถ่ายทำเสร็จก่อนเสียชีวิต

เผยตัวอย่างแรก A Merry Friggin' Christmas หนึ่งในผลงานล่าสุดของ โรบิน วิลเลียมส์ ที่ถ่ายทำเสร็จก่อนเสียชีวิต เมื่อ...

วิจารณ์หนัง::รูโรนิ เคนชิน เกียวโตทะเลเพลิง : ดาบสลับคม นักฆ่าสลับขั้ว

<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgmJTHvVVJObixY6AQD5mTKXgbIvXHWmlLY_0boNeQdkkAIO-pg1TcvEoZVD-TXRCSQxKoLqEGWdaZZzUSROE7k_yeZlPkse3n9rr9kfJSBtTaZo01d-97OvKJBHd2gIl_EgXg_lDyEQhM/s1600-h/Image.jpg"><img alt="8____1“๚—p_resize" border="0" height="327" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhg1IEWPfD_mnPcyqwQsrZmcE1oOI3VR0MDmvnLD4HNWDrFcFwKseG_1pSkuGMvAtdzUCz4tPXnYp_8mr4l06yzT5U6EKmfAnrLWzPQwHAF6JbrB-eFbabcKHGncnz3B8uOnaiditlbPR0/?imgmax=800" style="border-bottom: 0px; border-left: 0px; border-right: 0px; border-top: 0px; display: block; float: none; margin-left: auto; margin-right: auto;" title="8____1“๚—p_resize" width="488" /></a> 
 
ก่อนอื่นเลย คงต้องยอมรับกับคุณผู้ชมตามตรงว่า ไม่ได้เป็นแฟนการ์ตูน เคนชิน ซามูไรพเนจร สักเท่าไหร่ มากสุดคงอ่านไปแค่ 2- 3 ตอน และจำได้เพียงแผลเป็นรูปกากบาทสุดแนวที่แก้ม เท่านั้น เรียกว่าแทบไม่มีข้อมูลเลยดีกว่า… ดังนั้นทัศนะต่อไปนี้ เราจะไม่พูดถึงในแง่ของความเหมือนต่าง สนุกเท่าไม่เท่าการ์ตูนประการใด แต่จะมาคุยในส่วนที่เป็นตัวภาพยนตร์ล้วนๆ กัน 
 
รูโรนิ เคนชิน เกียวโตทะเลเพลิง เป็นภาคที่สองของหนังชุดซามูไรพเนจร ที่สร้างมาจากการ์ตูนชื่อเดียวกัน โดยภาคนี้ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ยุคเปลี่ยนผ่านใหม่ๆ ที่ระบอบจักรพรรดิ เข้าล้มล้างระบอบโชกุนสำเร็จ โดยเน้นไปที่ ฮิมุระ เคนชิน ซามูไรหนุ่ม อดีตมือสังหารสุดโหด ที่วางมือเลิกฆ่าคนมาใช้ชีวิตสงบสุข แต่ก็ไม่วาย โดนทางการตามตัวไปจัดการกับ ชิชิโอ มือสังหารที่มารับช่วงตำแหน่งต่อหลัง เคนชิน เกษียณตัวเอง แต่เพราะถูกรัฐบาลหักหลัง เลยคิดคด หาพวกก่อการกบฏล้างแค้น ยึดประเทศมันซะเลย! โดยมีจุดเริ่มต้นแผน ด้วยการเผาเมืองเกียวโตให้ลุกเป็นไฟ และงานนี้ มี เคนชิน ที่มีฝีมือทัดเทียมเท่านั้น ที่จะหยุดมหันตภันครั้งนี้ได้ 
 
ด้วยบรรดาคาแร็คเตอร์ค่อนข้างแบนราบ หลายคนดูจะขาดๆ เกินๆ ล้นปรี่เกินมนุษย์มนา อาทิเช่น ซามูไรดาบคู่จอมไฮเปอร์ ผู้ย้อมผมสีประหลาดผิดยุคผิดสมัย หรือ เพื่อนพระเอกจอมโวยวาย ที่เหมือนจะเกิดมาโกรธโดยเฉพาะ?! ประกอบกับบทสนทนาที่ดูฝืนๆ แปลกแปร่งไปบ้าง จนเหมือนถอดแบบมาจากตัวการ์ตูน (แหงล่ะ! ก็สร้างมาจากการ์ตูนนี่หว่า) และแบ่งฝั่งขาว-ดำ ความดี-ความชั่ว ชัดเจนตั้งแต่ต้นเรื่อง ทำให้หนังซามูไรเรื่องนี้ ไม่ต้องการกระบวนท่าคิดวิเคราะห์สภาพจิตใจ หรือความเป็นมนุษย์อะไรเลย สามารถดูได้แบบเพลินๆ และเอาใจช่วยพระเอกให้ผ่านพ้นการต่อสู้มาได้ แบบยังมีลมหายใจอยู่ ซึ่งนั่นทำให้ภาพรวมความสนุกของหนัง มิใช่การติดตามเนื้อเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เป็นบรรดาฉากที่เหล่าตัวร้ายเฝ้าประเคนคมดาบ ใส่เหล่าตัวดีแบบไม่มีเกรงใจ และสำหรับแฟนๆ หนังวิทยายุทธซามูไร ก็คงเต็มอิ่มกับฉากแอ็คชั่นเหล่านี้ได้อย่างไม่เสียดายค่าตั๋ว 
 
ด้วยความที่ตัวบท ไม่ได้เล่นท่ายากอะไร แต่ที่น่าเอ่ยปากชม ก็ยังคงจะเป็นการรักษาอารมณ์โดยรวม ที่เน้นหนักไปทางแอ็คชั่น แทรกความดราม่าเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ชายหญิง และพ่อแม่ลูกอยู่เล็กๆ ไม่ได้ถึงกับน้ำตาซึมอย่างใด แต่ส่วนที่ชวนเหวอมากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้น มุขตลกจากทีมพากย์ ที่ใส่มาผิดที่ผิดเวลาอยู่บ่อยครั้ง และอุดมไปด้วยความซ้ำซากน่าเบื่อ เสียจนมันไม่ตลก และทำลายอารมณ์ของฉากนั้น นำไปสู่การสร้างความรำคาญกับคนดู มากกว่าจะชวนคนดูหัวเราะรื่นรมย์ ซึ่งถ้าความตลกเหล่านี้ มันอยู่ในหนังฮ่องกงชวนหัว เซียนพนัน หรืออะไรทำนองนั้น มันจะทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม แต่ในหนังปมนักฆ่าซามูไรเรื่องนี้ มันแป้กสนิทอย่างน่าสลด 
 
อีกหนึ่งสิ่งที่ถูกใจเป็นพิเศษ คือการที่ตัวหนังที่ขึ้นชื่อว่าสร้างมาจากการ์ตูนเรื่องนี้ ไม่ยัดเยียดความโอเวอร์ โชว์พลังเหนือธรรมชาติ เพลงดาบมหัศจรรย์ ใส่คนดู แต่หันไปเล่นที่ตัวละครท่าทางประหลาด ที่ฟาดฟันกันด้วยเทคนิคแห่งการใช้คมดาบเพียวๆ แบบสมจริงแทน ซึ่งน่าจะทำให้คอภาพยนตร์กลุ่มผู้ใหญ่ พาเด็กๆไปดู ก็ยังคงสนุกลุ้นตามไปพร้อมกับลูกหลานของท่านได้อย่างไม่ชวนยี้ หรือจะเลือกพุ่งความสนใจไปในส่วนของสองนักฆ่า เคนชิน และ ชิอิโอ ที่มีทัศนคติต่อการพรากชีวิตในขั้วตรงกันข้ามกัน และนำไปสู่การต่อสู้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ถึงแม้หนังจะเปิดปมชีวิต และการตัดสินใจของทั้งสองไว้อย่างน่าสนใจในช่วงแรก แต่จนท้ายแล้วก็ไม่ได้พาไปล้วงลึกขั้นเข้าอกเข้าใจ ทำให้ได้แค่สนุกไปกับการรับตำแหน่งผู้พิทักษ์และผู้ทำลาย ที่ห้ำหั่นกันได้พอประมาณตามที่มันควรจะเป็น 
 
ป.ล. แอบบอกไว้สำหรับคุณผู้ชมที่ยังไม่ทราบ หนังยังมีภาคต่ออีกหนึ่งภาคนะครับ เพราะฉะนั้นข้อมูลหลายๆ อย่างที่ยังดูกลวงๆ และคาแร็คเตอร์หลายตัวๆ ที่มีบุคลิกน่าสนใจอย่างกลุ่ม จุปปงกาตานะ แต่ไร้ซึ่งบทเด่นอย่างน่าเสียดายในภาคนี้ อาจจะได้โชว์ฟอร์มในภาคหน้า ต้องรอดูกันต่อไป 
เรื่องนี้ให้ 7.5/10 ครับ 
 
โดย <a href="http://movie.mthai.com/movie-review/163184.html" target="_blank">movie.mthai</a>

วิจารณ์หนัง::รูโรนิ เคนชิน เกียวโตทะเลเพลิง : ดาบสลับคม นักฆ่าสลับขั้ว

ก่อนอื่นเลย คงต้องยอมรับกับคุณผู้ชมตามตรงว่า ไม่ได้เป็นแฟนการ์ตูน เคนชิน ซามูไรพเนจร สักเท่าไหร่ มากสุดคงอ่านไปแค่ 2- 3 ตอน และจำได้เพี...