10402379_596262810501028_1531805697660570733_n

น้องม๊อบ เผย หลังไปออกรายการโทรทัศน์ มีสินค้าทั้งอาหารเสริมและครีมทาผิวติดต่อให้ไปถ่ายโฆษณาให้หลายราย และทำให้คนมีทัศนคติที่ดีกับกลุ่มสาวประเภทสองมากขึ้น

          จากกรณีที่ น้องม๊อบ ฐิติวรดา เจ็กท้าว สาวลวกก๋วยเตี๋ยวที่โด่งดังในโลกออนไลน์ แม้ว่าเธอจะไม่ใช่แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวก็ตาม ล่าสุดน้องม๊อบก็สร้างความฮืออาอีกครั้ง เมื่อออกมายอมรับว่าตัวเองเป็นสาวประเภทสอง ซึ่งผ่านการผ่าตัดแปลงเพศแล้ว และวอนให้สังคมยอมรับเพศสภาพที่แตกต่างนั้น

           ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2557 ผู้สื่อรายงานว่า น้องม๊อบ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากเรื่องราวของตนเป็นข่าวออกไป ก็ได้กระแสตอบรับในโลกออนไลน์กลับมาดีมาก มีแต่คนชื่นชม และชื่นชอบในสิ่งที่ตนเป็น บางคนก็เข้ามาบอกในเฟซบุ๊กว่า เคยมีทัศนคติที่ไม่ดีกับกลุ่มสาวประเภทสอง แต่พอเห็นตน ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไป ทำให้รู้สึกอึ้ง และตนก็ดีใจที่มีคนมาชื่นชมขนาดนี้ นอกจากในโลกออนไลน์แล้ว ในชีวิตประจำวันก็มีคนเข้ามาทักและชื่นชม และเข้ามาขอถ่ายรูปมากกว่าเดิม ทำให้ยังปรับตัวไม่ทัน เพราะยังไม่ชิน

          สำหรับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายนั้น น้องม๊อบ บอกว่า เริ่มมาตั้งแต่การที่ชื่นชอบการเล่นตุ๊กตา จนอายุ 17-18 ปี จึงเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง ซึ่งพ่อแม่ก็ทราบเรื่องนี้มาโดยตลอด โดยช่วงแรกพ่อแม่ก็จะน้อยใจบ้าง แต่การที่ตนมีจุดยืนชัดเจนทำให้พ่อแม่ยอมรับในเรื่องนี้ และหลังจากไปออกรายการโทรทัศน์ก็ทำให้แม่ดีใจและภูมิใจมาก ที่ตนเป็นอย่างนี้แล้วมีคนชื่นชม อีกทั้งยังมีเพื่อนบ้านเข้ามาพูดคุยเรื่องนี้กับแม่ตลอด 

          นอกจากนี้ น้องม๊อบ ยังบอกอีกว่า มีสินค้าทั้งอาหารเสริมและครีมทาผิว เข้ามาติดต่อให้ไปถ่ายโฆษณาหลายรายด้วยกัน แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปถ่ายหรือไม่ เพราะต้องดูสินค้าและคุณภาพของสินค้าก่อนว่าเป็นอย่างไร เพราะหากไปถ่ายแล้วคนซื้อไปใช้ไม่ได้ผลตนก็จะถูกวิจารณ์ ส่วนงานในวงการก็มีคนบอกว่าจะติดต่อมา

          ด้าน นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า ดีใจและชื่นชมที่ น้องม๊อบ ออกมาเปิดเผยกับสังคมว่าตัวเองเป็นสาวประเภทสอง ซึ่งสังคมควรจะเรียนรู้ได้แล้วว่า ปัจจุบันในสังคมไทยมีความหลากหลายทางเพศและมีคนข้ามเพศมานานแล้ว และควรมองเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดา ดังนั้นจึงไม่ควรดูถูกกลุ่มคนเหล่านี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็สามารถประกอบอาชีพได้ทุกอาชีพ หากสังคมไทยไม่เข้าใจก็จะกลายเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด และซ้ำเติมกับกลุ่มคนเหล่านี้ได้

          นายจะเด็จ กล่าวอีกว่า ควรมองถึงเรื่องศักยภาพและความสามารถของเขามากกว่าที่จะมองเรื่องเพศสภาพว่าเป็นเรื่องประหลาด เขาจะเป็นเพศใดนั้นไม่ใช่ประเด็น เขาก็เป็นมนุษย์เหมือนเรา สิ่งที่สำคัญคือทำอย่างไรที่จะทำให้กลุ่มของเขามีศักยภาพและความสามารถในการทำงาน อยากให้มองว่าทุกอาชีพทุกเพศสามารถทำงานได้ทั้งหมด อยากให้สังคมไทยเปิดใจและยอมรับเพศที่สามให้มากกว่านี้

10516770_593997877394188_6776561296840123355_n

10538405_572429462884363_8441328271002451399_n

10629601_599063803554262_144259365141938489_n

10632740_602712059856103_936765731376823122_n

10653343_570795903047719_3990156642212844834_n

10734051_598334783627164_8996506975764217659_n

ที่มา khaosod

Post a Comment

 
Top